วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

อมก๋อย และพืชพรรณแห่งแรงบันดาลใจ

Invicta Men's Exclusive Subaqua Collection Noma III GMT Gunmetal Ion-Plated Watch #F0025
Invicta Women's ll Collection Camelot Quartz Gold Watch #8952
Invicta Men's Signature Collection Prowler Automatic Watch #7172
Invicta Men's Reserve Collection Specialty Automatic Chronograph Watch #4837
Invicta Men's Specialty Collection Chronograph Stainless Steel Watch #6302
Invicta Yellow Adrenaline Outsider In Flight Artist Collection White Corian Watch #5896
Invicta Men's Corduba Diver Chronograph Watch #4905
Invicta Men's S1 Collection Chronograph Black Ion-Plated and Black Rubber Watch #6463
Invicta Yellow Adrenaline Outsider In Flight Artist Collection Chronograph Watch #5897
Invicta Men's Subaqua Collection Chronograph 18k Gold-Plated and Black Polyurethane Watch #6231
Invicta Men's Reserve Collection GMT 18k Gold-Plated Black Rubber Watch #6186
Invicta Men's Subaqua Collection Chronograph Stainless Steel and Black Polyurethane Watch #6228
Invicta Men's Subaqua Noma III Collection Chronograph Watch #4568
Invicta Men's Pro Diver Collection Watch #4858
INVICTA CHRONOGRAPH XL SPECIAL SPIDER EDITION BLACK 5915
Invicta Men's Pro Diver Collection Automatic Watch #8930
Invicta Women's Slim Collection White and Black Stainless Steel Watch #5359
Invicta Men's Signature Collection Corduba Diverlock Black Ion Plated Stainless Steel Watch #7227
Invicta Men's Reserve Collection Rose Gold-Tone Chronograph Watch #5628
Invicta Men's Reserve Collection GMT 18k Gold-Plated and Stainless Steel Watch #6178
Invicta Men's Akula Collection GMT Black and 18k Rose Gold-Plated Blue Leather Watch #6443
Invicta Men's Speedway Collection Black Ion-Plated Chronograph Watch #5519
Invicta Women's Slim Collection Round Stainless Steel Mesh Watch #5165
Invicta Men's Pro Diver Collection Wakesetter Stainless Steel Watch #5624
Invicta Men's Lupah Collection Revolution Chronograph Black Rubber Watch #6098
Invicta Men's Speedway Collection Chronograph Stainless Steel Watch #9329/1
Invicta Men's Signature Collection Corduba Diverlock Stainless Steel Watch #7221
Invicta Men's Akula Collection GMT Black and 18k Rose Gold-Plated Brown Leather Watch #6444
Invicta Men's Signature Collection Sunset Classic Chronograph Watch #7154
Invicta Men's Slim Collection Square Black Leather Watch #5135
< < Previous   1  ...  44   45   46   47   48   49   50   51   52   ...  Next > >

อมก๋อยและพืชพรรณแห่งแรงบันดาลใจ (Mix MAGAZINE)

เมื่อ ลงมาจากปลายดอยแห่งนั้น นาทีที่จิบกาแฟขมเข้มอยู่ที่ไหนสักแห่ง ผมมักคิดถึงพวกเขา ชายชาวลาหู่นะและครอบครัวแห่งบ้านมูเซอ ตีนดอยม่อยจอง วันที่เขาหยิบยื่นอาราบิกาที่คั่วและบดเอง (ตามความเข้าใจ) ให้เรานำกลับลงมา ว่าตามตรง นาทีนั้นผมไม่ได้คิดถึงเรื่องคุณภาพ รสชาติ หรือมาตรฐานอะไรอย่างที่หลายคนให้ความสำคัญกับเมล็ดกาแฟ อาจด้วยมิตรภาพนั้น เป็นเรื่องหอมหวานเสียมากกว่า

ที่ บ้านกะเหรี่ยงสูงลึกขึ้นไปจากที่ราบของอำเภออมก๋อย ป่าเขายังคงยิ่งใหญ่กว่าความคิดความเชื่อใด ๆ จากเบื้องล่าง ห้วยน้ำไหลริน เด็กน้อยเก็บผลกาแฟสีแดงสุก ยื่นให้ผมลองปลิ้นชิมความหวานของเนื้อใน

หากใครว่ากาแฟเป็นเครื่องดื่มเสริมสร้างแรงบันดาลใจ หลายวันที่ขึ้นมาอยู่กลางสายลมหนาว ฟ้าใสสด และอากาศกดหนักบน อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ คน ที่นี่ต่างก็ทำให้ผมรู้ว่าการก้าวไปข้างหน้าของชีวิตนั้นต้องการแรงบันดาลใจ เป็นอย่างยิ่ง อาจไม่ได้มาจากที่ไกลแสนไกล บางคราวเพียงแค่ในแววตาอุ่นของผู้เฒ่าที่กำลังจะจากไป และรอยยิ้มของเด็กน้อยรุ่นใหม่ ๆ ที่ลืมตาตื่น ซึ่งต่างก็หลอมรวมอยู่บนผืนดินอันเป็นบ้าน และไม่เคยคิดจะหันหลังออกมาสักครั้ง

ผมผ่านความสูงและระยะทางกว่าร้อยกิโลเมตรขึ้นมาสู่อำเภออมก๋อย เมื่อแดดเย็นเปลี่ยนเมืองไกลแห่งนี้ให้อุ่นตานาข้าวของพวกเขาอยู่ในฤดูเก็บ เกี่ยว มันงดงามราวภาพเขียนอิมเพรสซันนิสม์ของโมเนต์ ไล่โทนสีเหลืองทองขึ้นไปเป็นขั้นบันไดและมีทิวเขาโอบรับอยู่ปลายตา น้ำแม่แจ่มยังคงหลากไหลแม้จะผ่านฤดูน้ำมากไปเมื่อสองสามเดือนที่ผ่านมา

ฤดูนี้ข้าวของคนอมก๋อยกำลังเต็มรวง ไม่ว่าใครต่อใครก็ใช่จ่ายเวลากลางวันไปด้วยแรงงาน โดยเฉพาะพี่น้องกะเหรี่ยง พวกเขาอยู่หุบนาเบื้องล่างมาตั้งแต่รุ่งเช้า และเป็นเช่นนี้มาทุกเมื่อเชื่อวัน เสียงตึ้กตั้กดังชัดขึ้นมาจากนาของพวกเขา และเมื่อผมลงไปหาก็พบว่าข้าวเปลือกที่ก่ายกองอยู่ในนา ล้วนผ่านการ "ตีข้าว" มาทั้งวี่วัน มันอาจเพียงพอกับครอบครัวหนึ่งไปอีกหลายเดือน เมื่อพ้นช่วงทำนา "ข้าวของเรามีไว้กิน ไม่ได้ขาย" หนุ่มกะเหรี่ยงสะกอร์ พูดถึงข้าวเจ้าของพวกเขาว่าไม่ใช่ข้าวไร่เหมือนพวกที่อาศัยตัวเองอยู่ข้างบนภู


อมก๋อย

อมก๋อย

อากาศเริ่มกดหนัก ชื้นเย็น แสงสุดท้ายในยามเย็นเหมือนจะหลอมให้นาขั้นบันไดอันไพศาล ในที่ราบกลางหุบเขาจมไปกับความมืด และเดือนดาวกำลังมาเยือน ผ่านค่ำคืนมาจนรุ่งเช้า ผมพบตัวเองอยู่ในไอหมอกและหุบเขาอีกแห่งของอมก๋อย ที่ความสูงกว่า 1,300 เมตร จากกระดับทะเลปานกลาง ไกลขึ้นมาจากตัวอำเภอเกือบ 10 กิโลเมตร

"เรา มาส่งเสริมให้พวกเขารู้ว่า พ้นเรื่องฝิ่นในอดีตยังมีพืชพรรณที่เหมาะกับบ้านของเขา" สุธาธาร ขัดทอง ผ่านพ้นชีวิตครูคอยมากว่า 10 ปี วันนี้เธออยู่ในไร่กาแฟของบริษัท วีพีพี โปรเกรสซีฟ จำกัด ตำแหน่งผู้จัดการของเธอไม่ใช่เรื่องของการอยู่แต่ในออฟฟิศ หากหมายถึงการบากบั่นขึ้นไปตามบ้านบนภูเขาของคนอมก๋อย ร่วมกับเหมย-สุวรรณ ดีแฮ หนุ่มกะเหรี่ยงคนพื้นที่ และ เฟิร์ส-พงศ์เทวินทร์ ศรีปินตา ชายจากลำพูน ทั้ง 3 คน รู้ดีว่างานของพวกเขาไม่ง่าย กว่าจะทำให้คนที่นี่ยอมรับให้เมล็ดพันธุ์ชนิดหนึ่งหยั่งรากลงบนผืนแผ่นดินอม ก๋อย

"กาแฟเหมาะ กับคนอมก๋อย ทั้งเรื่องสภาพอากาศความสูง และปริมาณน้ำฝน" เช้าที่มีอาราบิกาสายพันธุ์ "ดี" มาเป็นอเมริกาโนร้อน ๆ เราเฝ้ามองไอหมอกไหลผ่านไร่กาแฟในหุบอย่างเพลินตา

เมล็ดพันธุ์ของเครื่องดื่มอันแสนละเอียดอ่อนชนิดนี้ เดินทางไกลมาพร้อมกับประวัติศาสตร์มนุษย์ จากถิ่นกำเนิดบนที่ราบสูงอบิสซีเนีย หรือเอธิโอเปีย มันเดินทางข้ามทะเลแดงสู่ดินแดนตะวันออกกลาง และแพร่กระจายออกสู่ยุโรป อเมริกาใต้ ภายใต้เงื่อนไขของระบบการล่าอาณานิคม ตลอดจนการติดต่อเชื่อมโยงกันด้วยการค้าทางทะเล

ตำนานเกี่ยวกับการ "เดินทาง" ออกสู่ทั่วโลกของกาแฟดูจะชัดเจนที่สุดในเรื่องของ "คนเลี้ยงแพะ" ของตะวันออกกลาง จากที่เด็กหนุ่มชื่อ "กาลดี" ได้เห็นฝูงแพะที่โลดเต้นอย่างผิดปรกติ ครั้นเขาตามไปบนภูเขาจึงรู้ว่า แพะกินผลสุกของกาแฟเข้าไป เมื่อลองกินดูบ้างก็รู้สึกสดชื่น จากนั้นกาแฟก็แพร่หลายอยู่ในโลกมุสลิมที่เยเมน พัฒนาสู่การ "เข้าถึง" การนำเมล็ดมาคั่วและต้มกิน และเมื่อโลกฟากตะวันตกข้ามผ่านเข้ามา กาแฟอาราบิกาถูกนำออกไปปลูกในหลายพื้นที่ เกิดเป็นหลายสายพันธุ์ เช่น คาร์ติมอร์ เบอร์บอล บลูเมานท์เทน คาทุยอิ เอสแอล 28 ฯลฯ ซึ่งโลกต่างก็ได้เรียนรู้ว่าพัฒนาการของกาแฟนั้นแตกย่อยออกไปอย่างน่าทึ่ง

"ตำนานเกี่ยวกับกาแฟมีอยู่แทบทุกท้องที่ครับ ทิปิกานั่นเป็นสายพันธุ์แรก ๆ ที่กาแฟออกมาสู่โลกกว้าง" ระหว่างเดินตาม อาจารย์อาภรณ์ ธรรมเขต ลงไปดูกาแฟในไร่ เขาว่าไว้คร่าว ๆ เช่นนี้ ซึ่งก็ทำให้ผลเองทึ่งในความ "หลากหลาย" และ "เปราะบาง" ของกาแฟ

"คนปลูก คนศึกษากาแฟ ต้องยิ่งปลูกยิ่งโง่ครับ ลองผิดลองถูกมาถึงทุกวันนี้ ผมยังไม่รู้อีกเยอะ" หลาย สิบปีชีวิตราชการของกรมวิชาการเกษตร เขาบากบั่นพา "กล้าพันธุ์" หลากหลายไปเพาะไว้ตามแดนคอยภาคเหนือ ส่งต่อขายผลให้กับพี่น้องชาวเขา ข้ามน้ำข้ามทะเลไปศึกษาดูงานถึง "ถิ่น" ของกาแฟ เพื่อที่จะพบว่าชีวิตหลังวัยเกษียณก็ยังแยกออกจากพืชชนิดนี้ไม่ออก

"เห็นใครปลูกได้ผมก็ดีใจ อยากเอาพันธุ์ดี ๆ มาไว้ให้เขา อย่างที่อมก๋อยนี่น่าดีใจมาก" เราใช้เวลายามเช้าด้วยกันในไร่อีกนาน ไร่กาแฟกว้างใหญ่แห่งนี้ยังฉ่ำขึ้นด้วย ไอเย็น ถนนดินแดงข้างนอก เสียงกระดึงจากขบวนวัวดังกรุ๋งกริ๋งๆ พร้อมกับชาวบ้านในชุดประจำเผ่าสีแดงขุ่นเดินผ่านไปสู่การงานตามไร่นา

"กว่าพวกเขาจะยอมรับกับกาแฟก็นานอยู่ค่ะ อย่างว่าแต่เดิมมันไม่ใช่แค่เรื่องปลูก แต่พวกเขาต้องการรู้ว่ามันขายได้ไหม" นาทีต่อมาผมคุ้นจะเรียกสุธาธารว่าพี่หล้ามากกว่า


อมก๋อย

อมก๋อย

เวลาอันยาวนานของพี่น้องชาวไทยภูเขาบนอมก๋อย แน่นอนว่าต้องผ่านมาทั้งการล้มลุกคลุกคลานและอุปสรรคนามัปการ ผืนดินถูกพลิกฟื้นครั้งแล้วครั้งเล่าจากไร่ฝิ่นสู่ไร่กะหล่ำปลี มะเขือเทศ ผลไม้เมืองหนาวนานา ซึ่งรวมไปถึงระยะแรกของกาแฟ ซึ่งต่างต้องเผชิญปัญหาทั้งเรื่องคุณภาพและการขนส่งจากคงคอยอันมากอยู่ด้วย ดินโคลน

"มีแต่ส่งเสริมให้ปลูก แต่ขายไม่ได้ก็เปล่าประโยชน์" พี่หล้า เล่าเช่นนี้ไร่กาแฟที่เธอทำงานจึงมาถึงพร้อมกับคำว่า "โตไปด้วยกัน" พี่น้องชาวเขาทั้งที่ราบรวมไปถึงแดนดอยรอบด้าน เมื่อเลือกให้กาแฟได้แทงรากลงในดินอันอุดม นั่นหมายถึงการมีที่รับซื้อ ประกันราคาตลอดจนเข้ามาส่งเสริมดูแลในเรื่องคุณภาพการปลูก

เราออกจากไร่ บ่ายหน้ารถโฟร์วีลคันแกร่งขึ้นไปตามทางดิน มันโยนตัวอย่างกระด้าง หากเป็นฤดูฝน ไม่ยากที่จะจินตนาการถึงความ "ห่างไกล" ที่เพิ่มขึ้นมา ทางบีบแคบ บางช่วงเป็นหุบเหวลึก ขณะที่บางช่วงก็เปิดให้เห็นนาข้าวในหุบเขาของพี่น้องกะเหรี่ยง สายลมสดสะอาดพัดผ่านไร่นาจนดูเหมือนหุบเขาเคลื่อนไหว ในสายลมเจือด้วยกลิ่นหอมของต้นข้าวเจืออยู่บาง ๆ พี่หล้า และ เหมย โบกมือทักทายเป็นระยะ จอดถามสารทุกข์สุกดิบ ที่ถึงแปลไม่ออกก็รู้ได้ถึงความห่วงใยซึ่งกันและกัน

ป่า ชื่นเย็นเมื่อเราขึ้นมาถึงบ้านพะอัน ธารเล็ก ๆ อันเป็นหนึ่งในต้นน้ำแม่แจ่มเอื่อยไหลอยู่เคียงข้าง หมู่บ้านกะเหรี่ยงเล็ก ๆ แห่งนี้แสนเงียบสงบ มีโรงเรียนซึ่งประจำอยู่ด้วย ครูดอยวัยหนุ่มเพียงคนเดียว "เราสอนภาษาไทยและวิชาเบื้องต้นครับ ไม่ใช่เพื่อให้ไปไกล ๆ แต่หากให้เด็ก ๆ รุ่นใหม่สื่อสารกับคนข้างล่างได้ดี" บนแคร่เล็ก ๆ หน้าอาคารหลังเดียวที่เป็นทุกอย่าง เขาว่าอย่างคนที่เข้าใจโลกสองใบอันแตกต่าง

อาจารย์อาภรณ์ และ พี่หล้า เดินตัดธารน้ำเข้าไปในป่าลึก ผมเพลินอยู่กับเด็ก ๆ และแม่เฒ่าในชุดสะอ้านเสียงตำข้าวในครกกระเดื่อง ทุ้มช้าเป็นจังหวะตามเรี่ยวแรงวัยชราของแก

ตามพวก เขาขึ้นไปเพื่อรับรู้เรื่อง "ไม้บังร่ม" ที่สำคัญกับการปลูกกาแฟ สวนกาแฟของคนบ้านพะอันถือว่าดีมาก แชมอยู่ในป่าทึบอันเป็นเหมือนสิ่งที่แยกออกจากคนกะเหรี่ยงไม่ได้ "มีป่า มีน้ำ ก็มีกะเหรี่ยง" พ่อพลวงที่เดินตามมาดูบอกผมเช่นนั้น

ช่วงฝนอาจเหมือนหมู่บ้านแห่งนี้ถูกตัดขาดจากคนข้างล่าง ทว่า เมื่อกาแฟของคนบ้านพะอันสุกได้ที่ พวกเขาพร้อมที่จะเป๊อะขึ้นหลัง หรือวางท้ายมอเตอร์ไซด์แล้วลงไปสู่ที่ราบ การอยู่กับป่าไม้ได้ลดความเจนจัดและเข้าใจในฤดูกาลสำหรับพวกเขา

ผมล่วงลงมาก่อน นั่งมองเด็ก ของครูหนุ่มเริงร่าดูลำธารหลากไหล ควันไฟจากในครัวของเรือนไม้ยกสูงลอยล่อง "ตาบรี" ผมทักสวัสดีพวกเขาด้วยรอยยิ้มและก็ได้รับไมตรีนั้นกลับมาไม่แตกต่าง และก็ได้รู้ว่าคำ ๆ นี้ก็ใช้แทนคำว่า "ขอบคุณ" ได้เช่นกัน


อมก๋อย

อมก๋อย

ระหว่างพืชพรรณ ป่าเขา และทางดินเล็ก ๆ ที่ไต่ชันขึ้นมา เรื่องผลผลิตนั้นอาจเป็นคนละเรื่องกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า การดูแลซึ่งกันและกันต่างหาก ที่ทำให้รู้ว่ากลางโลกข้างล่างที่หมุนเคลื่อนไปทุกเมื่อเชื่อวัน ชีวิตบนนี้ของพวกเขาก็ไม่ได้โดดเดี่ยวอยู่กลางป่าลึกแต่เพียงผู้เดียว

ยามเย็นที่ตัวอำเภออมก๋อยลานตาไปด้วยเด็ก ๆ ชาวเขาที่เพิ่งเลิกเรียน คอยไกลแห่งนี้เป็นบ้านหลังใหญ่ของพี่น้องชาวไทยภูเขาหลายเผ่าพันธุ์ เด็กน้อยชาวกะเหรี่ยง มูเซอ แม้แต่ ม้ง ก็ล้วน "ลง" มาหาสิ่งที่เรียกว่าอนาคตกันที่โรงเรียนอมก๋อยวิทยาคม

"85 เปอร์เซ็นต์ล่ะครับ เด็กนักเรียนที่อมก๋อยเป็นชาวไทยภูเขา" ผู้อำนวยการพงศ์ชัย คำเมรุ พูดถึงเด็ก ๆ ของเขา ขณะที่ผมเพลินอยู่ในช่องมองภาพ เสื้อผ้าและเสียงหัวเราะนั้นน่าใส่ใจไม่แตกต่าง

ก่อนยามเย็นที่จะมาเยือน เราไปดู "ผลงาน" ของเด็ก ๆ ที่นี่ ซึ่งเมื่อไปถึงพื้นที่กว่า 40 ไร่หลังโรงเรียน ไร่กาแฟเขียวครึ้ม เย็นตา ก็เบียดแน่น ไม้บังร่มสูงชะลูด และพื้นที่หลังโรงเรียนก็กลายเป็นป่าย่อม ๆ บนดอยอมก๋อย การมาถึงของกาแฟแทบจะเปลี่ยนบุคลิกของบ้านแดนดอยให้มีซึ่งความพิเศษ ใช่แต่ผู้ใหญ่ เด็ก ๆ รุ่นต่อมาก็เห็นในภาพเช่นนั้น

"เรามีแบรนด์ของเราเองครับ ทางไร่วีพีพีฯ มาส่งเสริมให้เด็ก ๆ ปลูก คั่ว และบรรจุแพ็กเกจให้ เด็ก ๆ ที่เข้าโครงการต้องมาดูแลกาแฟคนละ 3 ต้น เรามีวิชาไร่กาแฟส่งเสริมคุณธรรม" ผอ.พงศ์ชัย เล่าให้ฟังดูราวกับเป็นวิชาเล่น ๆ

ทว่า ด้วยการเล่นกับพืชพรรณและผืนแผ่นดิน ณ ทุกวันนี้โรงเรียนอมก๋อยฯ มีร้านกาแฟเล็ก ๆ อยู่ที่หน้าโรงเรียนเปิดขายกาแฟสดหลากหลายเมนูในแบรนด์ "อมก๋อย" ซึ่งนิยามต่อท้ายด้วยว่า "กาแฟสดของหนู โรงเรียนอมก๋อยวิทยาคม"

ตรงทางแยกอำเภออมก๋อย ที่ที่ความเจริญต่างๆ เดินทางขึ้นมาถึงแดนดอยแห่งนี้เป็นจุดแรก ๆ ทั้งผู้คน ชาวไทยภูเขา นักท่องเที่ยว หรือแม้แต่คน "เมือง" เองก็ตาม หากหน้าตาของความผูกพันของผืนแผ่นดินและผู้คนเป็นเช่นเดียวกับกาแฟในร้าน เล็ก ๆ หน้าโรงเรียน คือหลอมรวมอยู่ด้วยเรี่ยวแรง ความหวัง และการอาทรดูแลจากทุกผู้คนรอบข้าง ร้านกาแฟตรงทางแยกเล็ก ๆ แห่งนี้ก็เปี่ยมค่าที่ใครสักคนจะนั่งลงทำความรู้จัก "เมล็ดพันธุ์" ของพวกเขา

ไต่ความสูงจากตัวอำเภอขึ้นมาสู่ไร่กาแฟ ผืนนาขั้นบันได และบ้านอยู่เรือนนอนของพี่น้องกะเหรี่ยงเช่นคืนวาน อากาศเย็นกำลังจะมาเยือน ขบวนวัวพร้อมแม่เฒ่าคาบกล้องยาผ่านมาด้านหน้าอย่างไม่จางคลาย ฟ้าสีบลูอมเรื่องราวของแผ่นดินคอยไกลนี้ไว้ในความมืด

"กาแฟคือศิลปะ ทุกขั้นตอนล้วนประณีตละเอียดอ่อนทั้งการปลูก คั่ว ชง ไปจนถึงเทคโนโลยีต่าง" ใคร สักคนบอกกับผมยามกระชับกาแฟร้อนหอมกรุ่นไว้กลางค่ำคืน ทว่า กับผู้คนอมก๋อย ท่ามกลางแผ่นดินอันอุดมบนความสูงอันพอเหมาะกับการหยั่งรากฝากวางชีวิต ผมว่าพวกเขาและเมล็ดพันธ์อย่างกาแฟ อาจเหมือนกันอยู่บางอย่าง คือมากมายไปด้วยเรื่องราวของการเดินทางแปรเปลี่ยน เคลื่อนย้าย แต่ก็ยังคงความชัดเจนเข้มข้นทุกครั้ง เมื่อกะเทาะ "เปลือกนอก" และเคี่ยวกรำจนเห็นสิ่งที่เรียกว่าหัวใจ"


อมก๋อย

อมก๋อย

การเดินทาง

จาก ตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 108 ผ่านอำเภอหางดง อำเภอสินป่าตอง อำเภอฮอด ผ่านออบหลวง ถึงบริเวณบ้านบ่อหลวง แยกซ้ายเข้าทางหลวง หมายเลข 1099 ไปอีกราว 49 กิโลเมตร ถึงอำเภออมก๋อย รวมระยะทางจากเชียงใหม่ถึงอมก๋อยราว 180 กิโลเมตร

มี รถโดยสารออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ สาย เชียงใหม่-ฮอด-อมก๋อย เที่ยวแรกออกเวลาตีห้าครึ่ง มาถึงอมก๋อยก่อนเที่ยง เที่ยวสุดท้ายออกเวลาบ่ายสอง ราคาประมาณ 130-150 บาท ขึ้นรถที่ตลาดประตูเชียงใหม่

มา เที่ยวชมชีวิตของคนอมก๋อย ควรขึ้นไปสัมผัสหมู่บ้านกะเหรี่ยงรอบนอก ไปเที่ยวชมผืนนาขั้นบันได ไร่กาแฟ และวิถีชีวิตของคนกะเหรี่ยง มูเซอ รวมถึงการอยู่ร่วมกินอย่างผสมผสานกลางสังคมเกษตรกรรม

มีที่พักเล็ก ๆ ชื่อ "อมก๋อยรีสอร์ท" บรรยากาศดี ติดลำน้ำแม่แจ่มให้บริการ โทรศัพท์ (053)467-33, 08-6188-1910 เว็บไซต์ www.omkoiresort.com

ที่มา

http://travel.kapook.com/view8961.html

แวะเที่ยว น้ำตกสาริกา ให้ใจชุ่มฉ่ำ

Invicta Men's Slim Collection Round Black Leather Watch #5139
Invicta Men's Pro Diver Automatic Stainless Steel Watch #6016
Invicta Men's Signature Collection Pro Diver Chronograph Watch #7053
Invicta Men's Reserve Collection Bolt Automatic Stainless Steel Watch #6038
Invicta Men's Pro Diver Collection Automatic Watch #9210
Invicta Men's Reserve Collection Bolt Automatic Stainless Steel Watch #6037
Invicta Men's Elements Collection Brushed Stainless Steel Link with Polished Center Bracelet #5959
Invicta Men's Pro Diver Collection Chronograph Stainless Steel Watch #6790
Invicta Men's Signature Collection Mechanical Skeleton Watch #7208
Invicta Men's Lupah Collection Chronograph Black Rubber Watch #6853
Invicta Men's II Collection Black Ion-Plated Stainless Steel Watch #5646
Invicta Men's Exclusive S1 Collection Touring Edition Chronograph Watch #F0041
Invicta Men's Pro Diver Collection Automatic Stainless Steel Watch #6024
Invicta Men's Reserve Specialty Chronograph Watch #4840
MENS INVICTA STEEL ULTRA SLIM MESH BAND WATCH 5309
Invicta Men's Reserve Collection Bolt Automatic Stainless Steel Watch #6039
Invicta Men's Pro Diver Collection Grand GMT Stainless Steel Watch #5124
Invicta Men's Sea Spider Collection Chronograph Stainless Steel Watch #6710
Invicta Men's Corduba Collection Automatic Watch #4494
Invicta Men's Pro Diver Collection GMT Black Ion-Plated Mesh Stainless Steel Watch #6361
INVICTA CORDUBA IBIZA SWISS CHRONO CHRONOGRAPH MEN'S WATCH GRAY SILVERTONE 6675
Invicta Men's Reserve Specialty Akula Chronograph Watch #4842
Invicta Men's Lupah Collection Dragon Chronograph Watch #2100
Invicta Men's Slim Collection Round Black Leather Watch #5140
Invicta Men's Subaqua Collection Chronograph Stainless Steel Black Rubber Watch #6044
Invicta Men's Signature Collection Pro Diver Automatic Watch #7048
Invicta Men's Reserve Speedway Watch #4987
INVICTA SEA SPIDER LADY'S WOMEN WATCH DIAMONDS SWISS QUARTZ BLUE GOLDTONE 5037
Invicta Men's Pro Diver Automatic Stainless Steel Watch #6018
Invicta Men's Signature Collection Corduba Automatic Skeleton Watch #7135
< < Previous   1  ...  41   42   43   44   45   46   47   48   49   ...  Next > >

ถ้าเอ่ยถึงจังหวัดนครนายก หลาย ๆ คนคงนึกถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เช่น น้ำตก ล่องแก่ง เดินป่า ฯลฯ โดยเฉพาะ "น้ำตกสาริกา" ที่เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดเลยก็ว่าได้ วันนี้กระปุกดอทคอมเลยจะพาเพื่อน ๆ ไปปีนป่ายเดินเลาะโขดหิน สัมผัสสายน้ำไหลเชี่ยวของ "น้ำตกสาริกา" กัน...

น้ำตกสาริกา เป็นน้ำตกในเขต อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตั้ง อยู่ที่ตำบลสาริกา อำเภอเมืองนครนายก ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือทางหลวงหมายเลข 3049 เป็นระยะทาง 12 กิโลเมตร แล้วแยกซ้ายเข้าทางหลวง 3050 อีก 3 กิโลเมตร ทางลาดยางตลอดสาย


น้ำตกสาริกา

น้ำตกสาริกา

น้ำตกสาริกา

น้ำตกสาริกา

น้ำตกสาริกา

น้ำตกสาริกา


น้ำตกสาริกา เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ สายน้ำไหลตกจากหน้าผาเป็นทอด ๆ ถึง 9 ชั้น ผาที่สูงที่สุดประมาณ 200 เมตร ในแต่ละชั้นขจะมีชั้นหินธรรมชาติรองรับน้ำและกลายเป็นแอ่งน้ำขนาดเล็ก ๆ อยู่ทั่วบริเวณชั้นของน้ำตก บางแห่งมีขนาดกว้างและน้ำไม่ลึกมาก ทำให้สายน้ำไหลตกลงมาอย่างสวยงาม ประกอบกับความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า เขียวชอุ่ม ทำให้สามารถเดินชื่นชมความงามของทัศนีภาพที่หาได้ยากยิ่ง

น้ำตกสาริกา สามารถลงไปเล่นน้ำได้แบบสบายตัวและปลอดภัย แถมยังเช่าห่วงยางมานอนปล่อยใจคิดอะไรเพลิน ๆ ได้อีกด้วย ^_^ แต่ต้องไปเที่ยว น้ำตกสาริกา ในช่วงฤดูฝนเพราะจะมีน้ำมาก ส่วนฤดูแล้งน้ำแห้ง พอมีบ้างเล็กน้อย


น้ำตกสาริกา

น้ำตกสาริกา

น้ำตกสาริกา

น้ำตกสาริกา

น้ำตกสาริกา

น้ำตกสาริกา


ส่วนบริเวณด้านล่างของ น้ำตกสาริกา มีบริการห้องอาบน้ำ ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกไว้บริการ และบริเวณใกล้เคียงกันมี "ถ้ำสาริกา" สถานที่ที่ อาจารย์มั่น ภูริฑตฺโต เคยมาบำเพ็ญศาสนธรรมที่นี่ระหว่าง พ.ศ. 2460-2463 สภาพเป็นเนินเขา ภายในบริเวณประกอบด้วยกุฏิของสงฆ์ เรือนบูชาหลวงปู่มั่น และโบสถ์ ซึ่งอยู่สุดทางเดินเท้าขึ้นเขา


น้ำตกสาริกา

น้ำตกสาริกา


ทั้งนี้ ทางขึ้น น้ำตกสาริกา จะมีศาล เจ้าพ่อปลัดจ่าง และ เจ้าแม่สาริกา ที่ชาวนครนายกและคนทั่วไปให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก ก่อนเดินทางขึ้น น้ำตกสาริกา ควรแวะไหว้เพื่อเป็นศิริมงคลในการเดินทางกันก่อน

อย่างไรก็ตาม ใครคิดที่จะเดินทางไปเที่ยว "น้ำตกสาริกา" สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-3731-2282, 0-3731-2284, 0-3731-5664 โทรสาร 0-3731-2286


น้ำตกสาริกา

น้ำตกสาริกา

น้ำตกสาริกา

น้ำตกสาริกา


อัตราค่าผ่านประตู

1. รถยนต์ส่วนบุคคล พร้อมคนขับ คันละ 50 บาท, ผู้โดยสารคนละ 10 บาท
2. รถจักยานยนต์ คันละ 10 บาท, ผู้ซ้อนท้ายคนละ 10 บาท
3. รถโดยสาร 6 ล้อ (รถตู้, สองแถว) พร้อมคนขับ คันละ 100 บาท, ผู้โดยสารคนละ 10 บาท
4. รถบัส พร้อมคนขับ คันละ 200 บาท, ผู้โดยสารคนละ 10 บาท
5. บุคคลธรรมดา คนละ 10 บาท

*เด็กสูงไม่เกิน 120 เซนติเมตร ไม่เสียค่าผ่านประตู ใช้บริการได้ 4 ชั่วโมง เกินคิดชั่วโมงละ 10 บาท เศษของชั่วโมงคิดเป็นหนึ่งชั่วโมง

*สามารถใช้ที่ทางผ่านขึ้นเขาใหญ่ได้ ไม่ต้องจ่ายเพิ่มอีก

ที่มา

http://travel.kapook.com/view8739.html

ท้าลมหนาว ท่องเที่ยว ดอยปุย

Invicta Men's Lupah Collection Grand Zen Chronograph Watch #4542
Invicta Men's Signature Collection Automatic Mechanical Stainless Steel and Black Watch #7134
Invicta Men's Subaqua Collection Chronograph Watch #5513
Invicta Men's II Collection Chronograph Stainless Steel Watch #6192
Invicta Men's Force Collection Lefty Watch #3330
Invicta Men's Pro Diver Collection Silver-Tone Watch #9204
Invicta Men's II Collection Racing Sport Gold Plated Chronograph Watch #5385
Invicta Women's Pro Diver Collection Watch #4868
Invicta Men's Russian Diver Collection Mechanical Stainless Steel and Rubber Watch #5928
Invicta Men's Sea Spider Collection Black Ion-Plated Chronograph Watch #5600
Invicta Men's Pro Diver Collection Grand Diver Automatic Watch #3048
Invicta Lady's Classique Quartz Italian Crystal Bezel Watch Rose Gold Brown 6454
Invicta Men's Signature Collection Pro Diver Automatic Watch #7043
Invicta Men's Reserve Collection GMT Stainless Steel Black Rubber Watch #6203
Invicta Men's Signature Collection Mechanical Skeleton Two-Tone Watch #7209
Invicta Yellow Adrenaline Low-Pro Artist Collection Monochromatic Tulips Watch #5817
Invicta Men's Pro Diver Collection Grand Diver GT Automatic Watch #3051
Invicta Women's Slim Collection White and Black Stainless Steel Watch #5357
Invicta Men's Reserve Collection Chronograph 18k Gold-Plated and Black Polyurethane Watch #6777
Invicta Men's Signature Collection Corduba Diverlock Two Tone Stainless Steel Watch #7224
Invicta Men's Subaqua Noma III Collection Chronograph Watch #4573
Invicta Men's Pro Diver Collection Two-Tone Watch #8935
Invicta Men's Pro Diver Collection Swiss Automatic Watch #4470
Invicta Men's II Collection Chronograph Stainless Steel Watch #6415
Invicta Men's Signature Collection Corduba Diverlock Gray Ion Plated Stainless Steel Watch #7226
Invicta Men's Subaqua Noma Collection Chronograph Watch #5215
INVICTA SPECIAL EDITION SWISS LUPAH 5 WATCH BANDS 5168
Invicta Men's S1 Collection GMT Stainless Steel Black Rubber and Gray Fabric Watch #6220
Invicta Men's Signature Collection Russian Diver Chronograph Watch #7213
Invicta Men's Russian Diver Collection GMT Black Rubber and Stainless Steel Watch #5851
< < Previous   1  ...  38   39   40   41   42   43   44   45   46   ...  Next > >

แหม ๆ ลมหนาวพัดผ่านมาแบบนี้ แถมยังมีวัดหยุดพักผ่อนยาว ๆ อีกเพียบ งานนี้จะให้นอนแกร่วอยู่บ้านก็กระไรอยู่ เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า ไปปลดปล่อยสมองให้โปร่งโล่งสบายกับความงามของธรรมชาติกันดีกว่า ซึ่งวันนี้กระปุกดอทคอมจะขอนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของ จังหวัดเชียงใหม่ ก็คือ ดอยปุย ยอดเขาที่สูง 1,658 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง แถมยังเดินทางไปง่ายนิดเดียว อะ ๆ ถ้าพร้อมแล้วก็แบกเป้ ผูกเชือกรองเท้าตามเข้ามาเลย ...

ดอยปุย เป็นส่วนหนึ่งของ อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย จังหวัดเชียงใหม่ เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 24 ของประเทศ มีลักษณะของพื้นที่เป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อนอยู่ในแนวเทือกเขาถนนธงไชย นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่สำคัญของตัวเมืองเชียงใหม่ และพื้นที่บางส่วนของอำเภอรอบ ๆ สภาพภูมิอากาศส่วนใหญ่จะหนาวเย็นและชุ่มชื้น เนื่องจากได้รับไอน้ำจากเมฆหมอกที่ปกคลุมอยู่เกือบตลอดปี อุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดในพื้นที่อยู่ระหว่าง 10-12 องศาเซลเซียส


สถานที่ท่องเที่ยว ดอยปุย ได้แก่...



ยอดดอยปุย


ยอดดอยปุย สูง 1,658 เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นจุดสูงสุดของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี บนยอดดอยปกคลุมด้วยป่าสนเขาผืนใหญ่ และเป็นแหล่งดูนกที่น่าสนใจแห่งหนึ่ง ดอยสุเทพและดอยปุยเป็นถิ่นอาศัยของนกมากกว่า 300 ชนิด เช่น ไก่ฟ้าหลังขาว นกกางเขนน้ำหลังดำ นกศิวะปีกสีฟ้า ฯลฯ ในช่วงฤดูหนาวยังมีนกอพยพบินย้ายถิ่นเข้ามาอาศัยอีกเป็นจำนวนมาก หลายชนิดเป็นนกหายาก โดยเฉพาะ นกเขน นกจับแมลงสีคราม นกเดินดงอกลาย นกปีกแพรสีม่วง ฯลฯ

ใกล้กับยอดดอยปุยมีสถานที่สำหรับกางเต็นท์ ซึ่งสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 250 คน ซึ่งห่างจากพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ประมาณ 7 กิโลเมตร เส้นทางค่อนข้างแคบและลาดชัน สำหรับผู้ที่ไม่ชินเส้นทาง ควรเดินทางไปถึงก่อนเวลา 17.00 น. เพื่อความสะดวกและปลอดภัย

ดอยปุย

ดอยปุย


พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์

เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงในด้านความสวยงาม และมีความสำคัญยิ่ง คือ เป็นที่ประทับแปรพระราชฐานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ บริเวณใกล้ดอยบวกห้า คำว่า "ดอยบวกห้า" เป็นชื่อเรียกตามคำพื้นเมือง ดอยหมายถึงภูเขา บวกหมายถึง หนองน้ำ ห้าหมายถึงต้นหว้า หมายความว่า ที่ยอดดอยแห่งนี้มีหนองน้ำอุดมไปด้วยต้นหว้า ขึ้นปกคลุมทั่วบริเวณหนองน้ำนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2504 และพระราชทานนามพระตำหนักนี้ว่า "ภูพิงคราชนิเวศน์" โดยทรงเลือกจากหนึ่งใน 2 ชื่อ ซึ่งสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อครั้งเป็นที่ พระศาสนโสภณ เป็นผู้คิดชื่อถวาย คือ "พิงคัมพร" กับ "ภูพิงคราชนิเวศน์"

พระตำหนักแห่งนี้ ใช้เป็นที่ประทับในโอกาสที่เสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐาน มาประทับแรมที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อทรงงานและเยี่ยมเยียนราษฎรในเขตภาคเหนือ รวมทั้งเพื่อรับรองพระราชอาคันตุกะที่เข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีกับไทยในโอกาส ต่าง ๆ การที่ทรงเลือกสร้างที่จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากมีอากาศเย็นสบาย ภูมิประเทศสวยงาม อีกทั้งเคยเป็นเมืองหลวงมาก่อน ผู้คนพลเมืองยังดำรงรักษา จารีตขนบธรรมเนียม ประเพณีอันดีงามไว้

ดอยปุย


พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ มีลักษณะเป็นแผนผัง แบบเรือนไทยภาคกลางที่เรียกว่า "เรือนหมู่" มีรูปแบบสถาปัตยกรรม เป็นไทยประเพณีประยุกต์ ก่ออิฐถือปูน ยกพื้นสูงหลังคาทรงไทย ภายในประกอบไปด้วยท้องพระโรง ห้องเสวย ห้องบรรทม และห้องสรง สำหรับพระราชอาคันตุกะ ตั้งอยู่คนละด้านมีเฉลียงใหญ่ และพลับพลาหอนกเป็นที่ประทับ ทอดพระเนตรทัศนียภาพของเมืองเชียงใหม่ ชั้นบนเป็นที่ประทับ ชั้นล่างเป็นที่อยู่ของมหาดเล็ก และคุณข้าหลวง

และได้ใช้พระตำหนักในการรับรองพระราชอาคันตุกะเป็นครั้งแรกคือ สมเด็จพระเจ้าเฟรดเดริคที่ 9 และสมเด็จพระราชินีอินกริต แห่งเดนมาร์ก เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ.2505 หลังจากนั้นก็มีประมุขของประเทศต่าง ๆ เป็นพระราชอาคันตุกะ มาประทับและพักที่พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ในเวลาต่อมาอีกหลายประเทศ เช่น สมเด็จพระนางเจ้าจูเลียน่า และเจ้าชายเบอร์ฮารท์ จากประเทศเนเธอร์แลนด์ สมเด็จพระราชาธิบดีโบดวง และพระราชินีฟาบิโอล่า แห่งประเทศเบลเยี่ยม ฯลฯ เป็นต้น ส่วนตัวอาคารอื่น ๆ ได้มีการก่อสร้าง เพิ่มเติมขึ้นภายหลัง

พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ เปิดจำหน่ายบัตรเข้าชม 2 ช่วงเวลา ได้แก่ ช่วงเช้า (08.30 - 11.30 น.) และช่วงบ่าย (13.00 - 15.30 น.) ปิดพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ เวลา 16.30 น. อัตราค่าธรรมเนียมเข้าชม สำหรับชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท ทั้งนี้ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 4 กิโลเมตร และเปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ

ดอยปุย

ดอยปุย

ดอยปุย

ดอยปุย



หมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้ง (แม้ว) ดอยปุย

บริเวณหมู่บ้านจำหน่ายของที่ระลึกจำนวนมากซึ่งมีทั้งที่ผลิตภายในหมู่บ้าน และนำมาจากที่อื่นวางขายให้แก่นักท่องเที่ยว มีพิพิธภัณฑ์ม้ง สวนดอกไม้ซึ่งมีบริการถ่ายรูปแต่งชุดชาวเขา บริเวณรอบ ๆ หมู่บ้านมีทิวทัศน์ที่สวยงาม สามารถมองเห็นดอยอินทนนท์ได้ นักท่องเที่ยวสามารถไปเยี่ยมชมได้สะดวกเพราะอยู่ใกล้ตัวเมือง โดยใช้เวลาในการเดินทางจากตัวเมืองประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น ส่วนการเดินทาง หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่บนดอยปุย ห่างจากพระตำหนักฯ 3 กิโลเมตร เป็นทางลาดยางตลอด สามารถเข้าไปเที่ยวด้วยตนเองได้ หรือจะเช่ารถสองแถวจากดอยสุเทพขึ้นไปได้ทุกฤดูกาล ประมาณคันละ 600-900 บาท

ดอยปุย


น้ำตกตาดหมอก

เป็นน้ำตกขนาดกลาง เกิดจากลำห้วยแม่แรม อยู่ห่างจากตัวอำเภอแม่ริม ประมาณ 5 กิโลเมตร ตามเส้นทางสายแม่ริม-สะเมิง แล้วแยกไปอีกประมาณ 9 กิโลเมตร การเดินทางไปน้ำตกตาดหมอก ต้องเดินทางโดยรถส่วนตัวเท่านั้น เนื่องจากรถบัสไม่สามารถเข้าถึง และไม่มีรถยนต์โดยสารวิ่งผ่าน

ดอยปุย

ดอยปุย


น้ำตกมณฑาธาร

น้ำตกมณฑาธารหรือน้ำตกสันป่ายาง เป็นน้ำตกที่สวยงามแห่งหนึ่งในเขตอุทยานฯ สูงกว่าระดับน้ำทะเล 730 เมตร มีทั้งหมด 9 ชั้น โดยมีน้ำตกไทรย้อย เป็นน้ำตกชั้นสูงสุด ที่ไหลมาจากห้วยคอกม้า แล้วไหลไปสมทบกับน้ำตกมณฑาธาร ผ่านผาเงิบ วังบัวบาน น้ำตกห้วยแก้ว ก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำปิง ที่มาของน้ำตกนั้นมาจากต้นมณฑา ซึ่งเป็นไม้ยืนต้น ดอกสีขาว ใบใหญ่ สีเขียวจัด เห็นได้ทั่วไปตามข้างทาง ลักษณะของน้ำที่ตกลงมาแยกออกเป็น 2 สายเล็ก ๆ แล้วไหลลงสู่แอ่ง ก่อนจะผ่านลานหินลงไปชั้นที่ 1 อยู่ห่างจากน้ำตกห้วยแก้วประมาณ 3 กิโลเมตร

บริเวณน้ำตกมณฑาธาร มีบ้านพักนักท่องเที่ยว จำนวน 2 หลัง พักได้หลังละ 6 คน ราคาหลังละ 1,500 บาท และมีสถานที่กางเต็นท์ ซึ่งสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 150 คน สามารถสำรองบ้านพักได้ผ่านทางเว็บไซด์ www.dnp.go.th หรือ โทรสำรองที่พักได้ที่ 053-210244

ดอยปุย

ดอยปุย


น้ำตกแม่สา

เป็นน้ำตกที่สวยงาม มีน้ำไหลตลอดปี มีทั้งหมด 10 ชั้น แต่ละชั้นห่างกันประมาณ 100-500 เมตร โดยเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ ไปตามถนนสายแม่ริม-สะเมิง ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร น้ำตกแม่สา เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ ที่ปกคลุมด้วยต้นไม้ใหญ่ทั่วบริเวณ ทำให้สภาพอากาศร่มรื่นเย็นสบายตลอดปี ทำให้ได้รับความนิยมมาก

การเดินทางไปน้ำตกแม่สา นอกจากนำรถส่วนตัวหรือรถบัสไปแล้ว ยังสามารถนั่งรถโดยสารประจำทาง สายเชียงใหม่ - สะเมิง บริเวณข้างวัดแม่ริม ซึ่งท่านจะต้องขึ้นรถสายเชียงใหม่ - แม่ริม บริเวณตลาดวโรรส หรือขนส่งช้างเผือก แล้วลงรถที่สี่แยกวัดแม่ริม เพื่อต่อรถสายเชียงใหม่ - สะเมิง เพื่อไปเที่ยวน้ำตกแม่สา แต่ไม่มีบ้านพักไว้บริการ มีแต่สถานที่กางเต็นท์ และมีเต็นท์ให้เช่า ท่านสามารถติดต่อได้ที่ 053-229731 ซึ่งสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 50 คน

แหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงกับน้ำตกแม่สา ส่วนมากเป็นแหล่งท่องเที่ยวของเอกชน ซึ่งมีทั้ง ฟาร์มผีเสื้อ ฟาร์มงู ฟาร์มสุนัข โรงเรียนลิง กิจกรรมขี่ม้า การเล่นบันจี้จั๊ม การขี่รถบักจี้ ออฟโรด หรือเยี่ยมชมสวนพฤกษศาสตร์สิริกิติ์ ซึ่งอยู่ห่างจากน้ำตกแม่สาประมาณ 5 กิโลเมตร

ดอยปุย


น้ำตกศรีสังวาลย์

น้ำตกศรีสังวาลย์ เป็นน้ำตกขนาดกลาง เกิดจากลำห้วยแม่ปานตอนบน อยู่ในพื้นที่อำเภอหางดง สามารถเดินทางโดยใช้ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1269 (หางดง-สะเมิง)

ดอยปุย


น้ำตกหมอกฟ้า

เป็นน้ำตกที่สวยงามอีกแห่งของอุทยานฯ มีน้ำไหลตลอดปี ตั้งอยู่ในเขต อ.แม่แตง โดยเดินทางไปตามเส้นทางสายเชียงใหม่-ฝาง (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 107) ถึงทางแยกบ้านแม่มาลัย อ.แม่แตง เลี้ยวซ้ายตามถนนสายแม่มาลัย-ปาย (ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1095) รวมระยะทางประมาณ 58 กิโลเมตร ซึ่งการเดินทางไปน้ำตกหมอกฟ้า หากต้องการขึ้นรถโดยสารประจำทาง สามารถขึ้นได้ที่สถานีขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ (อาเขต) เพื่อขึ้นรถสายเชียงใหม่ - ปาย แล้วลงรถตรงปากทางเข้าน้ำตกหมอกฟ้า แล้วต้องเดินเข้าไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร หรือหากนำรถไปเองก็สามารถนำไปได้ ยกเว้นรถบัส เนื่องจากระยะทางแคบและลาดชัน

น้ำตกหมอกฟ้า มีบริเวณที่เหมาะสำหรับการจัดทำค่าย เนื่องจากมีบ้านที่จัดเตรียมไว้สำหรับการจัดทำค่ายจำนวน 4 หลัง พักได้หลังละ 15 คน ราคาหลังละ 1,500 บาท และมีสถานที่กางเต็นท์ ซึ่งรองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 150 คน สามารถสำรองบ้านพักได้ผ่านทางเว็บไซด์ www.dnp.go.th หรือ โทรสำรองที่พักได้ที่ 053-210244 หรือ 08-4616-2389

ดอยปุย


น้ำตกห้วยแก้ว

เป็นน้ำตกเล็ก ๆ สูงประมาณ 10 เมตร เกิดจากลำน้ำห้วยแก้ว อยู่บริเวณเชิงดอยใกล้ทางขึ้นดอยสุเทพ เหนือน้ำตกห้วยแก้วขึ้นไปเล็กน้อย จะเป็น “วังบัวบาน” เป็นสถานที่ที่กล่าวถึงตำนานรักอันอมตะที่ลือชื่อของสาวเหนือ และผาเงิบ ซึ่งอยู่เหนือวังบัวบานประมาณ 100 เมตร ใช้เป็นสถานที่พักผ่อน

บริเวณเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ เส้นทางน้ำตกห้วยแก้ว วังบัวบาน ผาเงิบ มีนกหลากชนิดที่น่าสนใจ ได้แก่ นกกระรางหัวหงอก นกแซงแซวหางปลา นกเขาเขียว และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งเป็นจุดชมนกที่น่าสนใจอีกแห่งในอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย

สันกู่


สันกู่

เมื่อปี พ.ศ.2526 หน่วยศิลปากรที่ 4 เชียงใหม่ ได้ขุดแต่งบูรณะซากโบราณสถานสันกู่ การทำงานในครั้งนั้น เป็นไปตามพระประสงค์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงทราบฝ่าละอองพระบาทว่า โบราณสถานแห่งนี้ถูกขุดทำลายเป็นเวลานานแล้ว สมควรให้กรมศิลปากรสำรวจและบูรณะให้อยู่ในสภาพที่ดีต่อไป นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อการศึกษาประวัติศาสตร์และโบราณคดี

สภาพก่อนการขุดแต่ง เป็นเนินโบราณสถานที่มีต้นไม้หนาแน่น เมื่อขุดลอกดินที่ทับถมออก พบซากเจดีย์และฐานวิหาร ได้ขุดลอกหลุมที่เกิดจากการลักลอบขุดที่ตรงฐานเจดีย์ในระดับความลึก 5.30 เมตร พบโบราณวัตถุในกรุที่สำคัญ ได้แก่ เศียรพระพุทธรูป ศิลปะแบบหริภุญไชย พระพิมพ์ดินเผา ศิลปะแบบหริภุญไชย เศษเครื่องปั้นดินเผาเป็นชิ้นส่วนกระปุกขนาดเล็ก เป็นของจีน สมัยราชวงศ์หมิง (พ.ศ.1911-2187) และการขุดแต่งส่วนอื่น พบเศษเครื่องปั้นดินเผาจากแหล่งเตาสันกำแพง สันนิษฐาน โบราณสถานสันกู่มีอายุระหว่างพุทธศตวรรษที่ 19-22

สันกู่ ตั้งอยู่บริเวณเส้นทางไปลานกางเต็นท์ดอยปุย ห่างจากพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ประมาณ 4 กิโลเมตร เส้นทางค่อนข้างคดเคี้ยว และลาดชัน ควรขับรถด้วยความระมัดระวัง


สถานีวิจัยดอยปุย

สถานีวิจัยดอยปุย หรือเรียกว่า สวนสองแสน ตั้งอยู่ที่ถนนศรีวิชัย ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ มีพื้นที่ 119 ไร่ 2 งาน 2.5 ตารางวา เป็นแปลงทดลอง 74 ไร่ 1 งาน 97.5 ตารางวา สวนนี้นับเป็นสวนประวัติศาสตร์ของการเกษตรบนที่สูง คือเป็นสวนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 200,000 บาท เพื่อทรงสนับสนุนการดำเนินงานวิจัยและพัฒนาบนที่สูง เพื่อการจัดหาพื้นที่เพิ่มเติมให้แก่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ดำเนินการศึกษาวิจัยขอองมูลนิธิโครงการหลวง ในการดำเนินการวิจัยทดลองและขยายพันธุ์พืชเขตหนาว

ดอยปุย



การเดินทาง

รถยนต์

จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) แล้วแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 32 ( สายเอเซีย ) ผ่าน อยุธยา อ่างทอง นครสวรรค์ แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ผ่าน จังหวัดลำปาง แยกซ้ายผ่านจังหวัดลำพูน ถึงตัวเมืองเชียงใหม่ รวมระยะทาง 696 กิโลเมตร

รถโดยสารประจำทาง

มี รถประจำทางของบริษัทขนส่งจำกัดทั้งรถธรรมดาและปรับอากาศและปรับอากาศชั้น หนึ่งบริการระหว่างกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ทุกวัน รายละเอียดสอบถามได้ที่ : โทร. 0 2537 8055 - 6 (รถธรรมดา) และที่เชียงใหม่ โทร. 0 5324 1449, 0 5330 4748 นอกจากนี้ยังมีรถปรับอากาศชั้น 1 ของบริษัทรถร่วมเอกชนระหว่าง กรุงเทพฯ-เชียงใหม่วันละหลายเที่ยว

รถไฟ

รถไฟ จากหัวลำโพงมาเชียงใหม่ มีวันละ 7 เที่ยว ตั้งแต่เวลา 06:20 – 22:00 น. โดยรถสปินเตอร์, รถเร็ว และรถด่วนพิเศษ เมื่อเดินทางมาถึงสถานีรถไฟ เชียงใหม่ สามารถเรียกบริการรถยนต์โดยสารที่จอดอยู่ประจำสถานีรถไฟเชียงใหม่ มาส่งที่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ได้ ติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่

# สถานีรถไฟหัวลำโพง โทร. 0-2223-7010 หรือ 0-2220-4334
# สถานีรถไฟเชียงใหม่ โทร. 0-5324-4795, 0-5324-2094, 0-5324-7462 หรือ 0-5324-5363-4

เครื่องบิน

สาย การบินที่เปิดให้บริการจากกรุงเทพฯ มาเชียงใหม่ ได้แก่ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ และสายการบินไทย จากสนามบินเชียงใหม่ สามารถจ้างเหมารถยนต์โดยสารรับจ้างมาเยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ได้ ในอัตราที่แล้วแต่จะได้ตกลงกันไว้




สำหรับการเดินทางไปแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ของอุทยานฯ สามารถเดินทางได้หลายวิธี ดังนี้ ...

น้ำตกมณฑาธาร ท่านสามารถนำรถจักรยาน รถจักรยานยนต์ รถยนต์ส่วนตัว หรือรถมินิบัส เข้าไปบริเวณน้ำตกมณฑาธารได้ ซึ่งน้ำตกมณฑาธาร จะอยู่ห่างจากอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ประมาณ 3 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวา แวะชำระค่าธรรมเนียมเข้าชมน้ำตก ก่อนเดินทางอีกประมาณ 3 กิโลเมตร ก็จะถึงน้ำตกมณฑาธาร

พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ อยู่ ห่างจากวัดพระธาตุดอยสุเทพ ประมาณ 4 กิโลเมตร รถบัสไม่สามารถเข้าถึงได้ หากท่านไม่ได้นำรถมาเอง ต้องเช่า-เหมารถจากบริเวณหน้าวัดพระธาตุดอยสุเทพ ซึ่งรถจะบริการนำเที่ยวพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ยอดดอยปุย และบ้านม้งดอยปุย

บ้านม้งดอยปุย อยู่ห่างจากพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ประมาณ 4 กิโลเมตร เส้นทางจะคดเคี้ยว และลาดชัน ควรขับรถด้วยความระมัดระวัง

ยอดดอยปุย อยู่ห่างจากพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ประมาณ 7 กิโลเมตร เส้นทางค่อนข้างแคบ และลาดชัน ควรขับรถด้วยความระมัดระวัง

น้ำตกตาดหมอก ท่านสามารถนำรถจักรยาน รถจักรยานยนต์ หรือรถยนต์ส่วนตัว เข้าเยี่ยมชมน้ำตกตาดหมอกได้ แต่รถบัส ไม่สามารถเข้าถึงน้ำตกได้ เนื่องจากทางแคบ และคดเคี้ยว และไม่มีรถโดยสารประจำทางวิ่งผ่าน

น้ำตกแม่สา ท่าน สามารถนำรถจักรยาน รถจักรยานยนต์ รถยนต์ส่วนตัว หรือรถบัส ไปเยี่ยมชมน้ำตกแม่สาได้ หรือจะนั่งรถโดยสารประจำทาง สายเชียงใหม่ - สะเมิง บริเวณข้างวัดแม่ริม ซึ่งท่านจะต้องขึ้นรถสายเชียงใหม่ - แม่ริม บริเวณตลาดวโรรส หรือขนส่งช้างเผือก แล้วลงรถที่สี่แยกวัดแม่ริม เพื่อต่อรถสายเชียงใหม่ - สะเมิง เพื่อไปเที่ยวน้ำตกแม่สา

น้ำตกหมอกฟ้า ท่านสามารถนำรถจักรยาน รถจักรยานยนต์ หรือรถยนต์ส่วนตัว ไปได้ แต่รถบัสไม่สามารถเข้าถึงน้ำตกได้ เนื่องจากทางแคบ และลาดชัน หากต้องการขึ้นรถโดยสารประจำทาง สามารถขึ้นได้ที่สถานีขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ (อาเขต) เพื่อขึ้นรถสายเชียงใหม่ - ปาย แล้วลงรถตรงปากทางเข้าน้ำตกหมอกฟ้า แล้วต้องเดินเข้าไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร

อย่าง ไรก็ตาม สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ ได้ที่ อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ถนนห้วยแก้ว ต.สุเทพ อ. เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ 50200 โทรศัพท์ 0 5321 0244 โทรสาร 0 5321 2065 อีเมล doisuthep_pui@hotmail.com

ที่่มา

http://travel.kapook.com/view7835.html