วันจันทร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2553

แหวกม่านเมฆชมดอกไม้ ไต่ความสูง ภูหินร่องกล้า

Invicta Men's Reserve Collection Gold-Tone Chronograph Watch #5630
Invicta Men's Subaqua Collection Subaqua Noma III Black & Stainless Steel Watch #4561
MENS INVICTA ULTRA SLIM WHITE LEATHER BAND WATCH 5356
Invicta Men's II Collection Chronograph Watch #5389
Invicta Men's Subaqua Collection Chronograph Watch #4566
Invicta Women's Pro Diver Collection Watch #4870
NVICTA S1 RACER SWISS QUARTZ CHRONOGRAPH MEN'S WATCH GREEN 6484
Invicta Men's Specialty Collection Sea Spider Chronograph Watch #4597
Invicta Men's Signature Collection Pro Diver Ocean Ghost Automatic Watch #7034
Invicta Men's Subaqua Noma III Collection Chronograph Watch #5396
Invicta Men's Subaqua NOMA GMT Automatic Watch #4702
Invicta Men's S1 Rally Collection Chronograph Watch #5130
Invicta Men's Reserve Sea Vulture Collection Automatic Watch #4422
Invicta Midsize Adrenaline Collection Heron Motif Black Corian Watch #5903
Invicta Women's Slim Collection Square Stainless Steel Mesh Watch #5162
Invicta Men's Signature Collection Air Legend Chronograph Watch #7169
Invicta Men's Signature Collection Ocean Ghost Automatic Watch #7212
Invicta Men's Specialty Collection Chronograph 18k Gold-Plated Watch #6307
Invicta Men's Reserve Specialty Akula Chronograph Watch #4845
Invicta Signature Diamond Pave Diver Mens Watch 7236
Invicta Men's Ocean Quest Yachting Edition Chronograph Watch #5443
Invicta Men's Exclusive Akula Collection Russian Diver Chronograph Black Ion-Plated Watch #F0013
Men's Invicta Reserve Specialty Akula Chronograph Watch (Model:4842)
Invicta Men's Reserve Speedway Skeleton Mechanical Automatic Watch #4950
Invicta Men's Exclusive Pro Diver Sport Collection GMT Gold-Tone Watch #F0058
Invicta Men's Reserve Collection Chronograph Watch #5732
Invicta Men's Force Collection Gold-Tone Chronograph Watch #5418
Invicta Men's Signature Collection Mechanical Skeleton Two-Tone Watch #7205
Invicta Men's Lupah Collection Diver Steel Watch #3210
Invicta Men's Subaqua Noma III Collection 7750 Automatic Watch #4565
< < Previous   1  ...  53   54   55   56   57   58   59   60   61   ...  Next > >

เจ้ารถสี่ล้อของเราล่วง หน้ามาก่อนขบวนคาราวาน "อีซูซุ ซูเปอร์คอมมอนเรลสัญจร" ไต่ความคดเคี้ยวของถนนและไหล่เขามาสูดอากาศบริสุทธิ์บริเวณ ภูหินร่องกล้า เป็นคันแรก ๆ

บน ภูหินร่องกล้า อากาศเย็นสบายกำลังดี ป่าไม้ยังรกครึ้ม ปลุกให้เราตื่นจากความง่วง ขณะที่บางคนได้สัมผัสอากาศเย็น ตาก็เริ่มปรืออยากจะหาเปลมาผูกนอนให้รู้แล้วรู้รอด แต่กว่า ภูหินร่องกล้า จะก้าวมาสู่วันนี้ได้ ต้องผ่านร้อนหนาวมามากมาย โดยเฉพาะเมื่อยามเกิดภัยสงครามในพื้นที่

ความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลไทยกับกลุ่มคนผู้ยึดถือแนวคิดคอมมิวนิสต์เริ่ม ปะทุรุนแรงขึ้นเมื่อเกิดเหตุการณ์ "วันเสียงปืนแตก" เมื่อ 7 สิงหาคม 2508 โดยกองกำลังติดอาวุธคอมมิวนิสต์ได้ซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐบาลที่บ้านนาบัว ต.เรณูนคร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม อันเป็นการแสดงเจตนารมณ์เด่นชัดว่า ต่อไปนี้จะดำเนินการสงครามกองโจรต่อสู้กับฝ่ายรัฐบาล

ห้วงยามที่เพลงมาร์ชกองทัพปลดแอกประชาชนไทย และธงค้อนเคียวโบกสะบัดบนยอดภูหินร่องกล้า ซึ่งมีแนวร่วมทั้งกลุ่มนักศึกษาและชาวม้งในพื้นที่ เนื่องจากพื้นที่เป็นแนวเทือกเขาสูง สลับซับซ้อนทอดยาว จากทิศเหนือสุด ติดชายแดนลาว ด้านแขวงไชยบุรี ลงมาทางทิศใต้ ในเขตจังหวัดเพชรบูรณ์ ตลอดจนเป็นต้นกำเนิดของต้นน้ำที่สำคัญหลายสาย อาทิ ห้วยน้ำไซ ห้วยน้ำขมิ้น ห้วยออมสิงห์ และ ห้วยหลวงใหญ่ เป็นต้น


ภูหินร่องกล้า


จากรอยแตกร้าวของคนไทยในอดีต ทำให้เกิดเส้นทางเยี่ยมชมยุทธภูมิสำคัญในอดีตของ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) บน ภูหินร่องกล้า ในวันนี้ที่รวบรวมเรื่องราวให้คนรุ่นหลังได้เดินแหวกม่านเมฆ...

พร้อมแล้วเริ่มเดิน ๆๆ... ที่แรกคือ ลานอเนกประสงค์เป็นลานหินกว้าง พคท.ใช้เป็น ที่พักผ่อนและจัดกิจกรรมในวันสำคัญ เช่น วันเสียงปืนแตก ปัจจุบันยังมีสหายที่ร่วมรบในอดีตแวะเวียนมารำลึกการต่อสู้เคียงบ่าเคียง ไหล่ บนลานหินกว้างมีกอหญ้าแซมด้วยดอกไม้สีขาวสวยหลายดอกเหมือนกับธรรมชาติเป็น ใจวางแจกันดอกไม้ประดับไว้ให้เราชื่นชม

ส่วนด้านข้างลานอเนกประสงค์ก็มี ชั้นหินซันแครกที่คล้ายกับบังเกอร์ไว้หลบการต่อสู้จากฝ่ายตรงข้าม แต่แท้จริงแล้วชั้นหินเหล่านี้ทางวิทยาศาสตร์บ่งบอกได้ว่า พื้นที่แห่งนี้เคยอยู่ใต้ทะเลมาก่อน ซึ่งแรงบีบอัดทำให้เกิดชั้นหินทรายซ้อนกันบวกกับความร้อนจากแสงอาทิตย์ และความเย็นยามกลางคืนทำให้กัดกร่อนชั้นหินให้มีความกลมมน ตลอดจนมีซากปืนกลครั้งอดีตที่ พคท. ยึดมาจากหน่วยงานของรัฐเพื่อป้องกันที่มั่นให้ได้ชม

ไม่ไกลกันนักมีทางแยกเพื่อไปไหว้หลุมศพของ ผู้กองสมวิทย์ (ส.เล่าตุ๊) ม้งคนแรกที่นำลัทธิคอมมิวนิสต์ จากเวียดนามมาเผยแพร่บน ภูหินร่องกล้าตั้งแต่ปี 2510 และเมื่อเกิดความขัดแย้งในพรรคเขาถูกยิงตายเมื่อปี 2522 และจากการสังเกตดินบนหลุมศพมีผู้ที่มาเคารพนำบุหรี่ปักไว้ จึงได้ความว่า ผู้ที่มาเคารพส่วนใหญ่ไม่ได้เตรียมธูปเทียนมาจึงใช้การจุดบุหรี่แล้วนำไม้ เสียบเข้าไปในก้นกรองและปักไว้บนหลุมศพเพื่อเป็นการเคารพ

ช่วงสายวันนี้เมฆมากทำให้บรรยากาศเย็นสบายยามเดินฝ่ากลุ่มก้อนเมฆ ไกด์ยืนยันว่านี่ไม่ใช่สายหมอก!!! แต่ภูมิประเทศบนนี้ก้อนเมฆเคลื่อนที่ต่ำ สำหรับคนที่ชอบชมดอกไม้ตลอดทางมีเฟิร์นนานาพันธุ์ให้เลือกชมแซมด้วยดอกไม้ เมืองหนาวมากมาย ขณะที่พุ่มข้าวตอกฤาษีแตกดอกขาวสะพรั่งน่าชม

แล้วก็มาถึงหลุมหลบภัยทางอากาศที่เป็นก้อนหินขนาดใหญ่ทับซ้อนกันเป็นโพรง หลบได้ราว 200 คน ทำให้ทางการยากต่อการตรวจสอบทางอากาศ และมีหลุมหลบภัยลักษณะนี้อยู่หลายแห่งในบริเวณ ภูหินร่องกล้า

เดินเลาะเลียบมาตามทางเดิน ไม่นานก็เจอโรงเรียนการเมืองการทหาร อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 6 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของโรงเรียนที่ใช้สำหรับฝึกอบรม ศึกษาตามแนวทางของลัทธิคอมมิวนิสต์ บริเวณนี้ประกอบด้วย ฝ่ายพลเรือน ฝ่ายพลาธิการ ฝ่ายทหาร อดีตมีบ้านไม้ทั้งหมดประมาณ 30 หลัง กระจายอยู่ในป่ารกทึบ


ภูหินร่องกล้า

ไม่ไกลกันนักคือ สำนักอำนาจรัฐ เป็นสถานที่ใช้ดำเนินการด้านทหารการปกครองมวลชน คล้ายศาลากลางจังหวัด ภายในมีบ้านไม้ ปลูกสร้างเป็นกลุ่ม ๆ มีโรงครัว โรงทอผ้า สถานที่อบรม และคุกไม้สำหรับผู้กระทำผิด โดยทำการจันทร์-ศุกร์ ช่วง วันหยุด เมื่อข้าวในแปลงนาบริเวณใต้ผาชูธงถึงฤดูเก็บเกี่ยวสหายจะช่วยกันลำเลียง ด้วยตะกร้าม้งมาเก็บไว้ในสำนักอำนาจรัฐ และทำการสีข้าวต่อไป

ผาชูธง เป็นอีกสถานที่ สำคัญทางยุทธศาสตร์ เมื่อครั้งอดีต เพราะเป็นหน้าผาสูงชันมองเห็นทัศนียภาพได้ รอบด้าน โดย พคท. ใช้เป็นที่โบกสะบัดธงรูปค้อนเคียวเมื่อยามรบชนะฝ่ายรัฐบาลหรือใช้เป็นที่ สื่อสารข่าวผ่านสัญญาณต่าง ๆ เดินไปไม่กี่อึดใจก็เจอลานหินแตกที่ต้องบอกว่าเป็นความงามของธรรมชาติโดยแท้ ด้วยลักษณะเป็นลานหินกว้างมีรอยแตกเหมือนแผ่นดินแยกออกจากกัน ยามก้มมองลงไปชวนให้หวาดเสียวเพราะเป็นซอกหินขนาดลดหลั่นกันลงไป หากตกลงไปคงรอดยาก ดังนั้นผู้ปกครองที่พาเด็กมาเยี่ยมชมควรดูแลอย่างใกล้ชิด เช่นเดียวกับลานหินปุ่มที่ยังคงความงดงามของธรรมชาติ ซึ่งหินเหล่านี้บางส่วนอาจได้รับผลกระทบจากสงครามบ้าง เนื่องจากอดีตใช้เป็นที่พักฟื้นของคนไข้เพราะลมพัดเย็นสบาย เรานั่งพักชมทิวทัศน์และกลุ่มก้อนเมฆได้สักพักก็เดินทางต่อเพื่อกินอาหาร กลางวันและคุยกับสหายชาวม้ง ที่ร่วมกับ พคท. ที่ ภูหินร่องกล้า ตั้งแต่ยุคเริ่มต้น

"...เราเริ่มจากสองมือเปล่า แย่งเอาอาวุธปืน ปฏิกิริยาเด็ดเดี่ยวเอาอาวุธมัน ล้างมันแหลกลาญ วินัยเหล็กเพชร ทรหด รอบคอบอดทน ทำสงครามยาวนาน เสียสละกล้าหาญ ทะยานล้างโจรทมิฬ..." เสียงร้องเพลงมาร์ชกองทัพปลดแอกประชาชนไทย ยังคงตราตรึงอยู่ในห้วงคำนึงของสหายมีนา ในวัย 57 ปีอย่างแม่นยำ แม้เสียงร้องกระท่อนกระแท่นไปตามอายุขัย

สหายมีนาถูกจารึกชื่อเป็น ชาวม้งลำดับที่ 1 ซึ่งร่วมกับ พคท. ด้วยวัยเพียงแค่ 15 ปี เมื่อเริ่มเข้าสู่ร่มธงค้อนเคียว และวันนี้เขายังยึดมั่นหลักการรับใช้ประชาชนด้วยการให้ความรู้กับผู้สนใจชม อดีตของ ภูหินร่องกล้า อันเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายของชีวิต...

"ปืนสำคัญกว่าชีวิต"สหายมีนากล่าวถึงนิยามที่สหายทุกคนต้องจำขึ้นใจ จึงไม่แปลกที่วันมอบตัวกับทางการด้วยการส่งมอบปืนอาก้าคู่ใจ เขารู้สึกหดหู่เหมือนขาดเพื่อนคู่ใจไปสักคน สหายมีนาเล่าถึงระบบทุนในอุดมคติ ว่า ตอนนี้ระบบทุนของมหาอำนาจในการก้าวก่ายประเทศไทยไม่รุนแรงเท่าเมื่อก่อน ที่มีการแทรกแซงเข้ามาสร้างฐานทัพอย่างโจ่งแจ้ง ซึ่งทุกคนต้องรู้จักความพอประมาณไม่ลุ่มหลงกับวัตถุเงินตรามากเกินไป

"ทุกวันนี้คนไทยแบ่งเป็นฝักฝ่ายทำร้ายกันไปมา มันไม่ใช่เรื่องดีสำหรับประชาชน โดยรวมเพราะเหมือนเรากำลังเอาก้อนหินทุบหัวตัวเอง ความเสียหายต่าง ๆ ผลสุดท้ายก็ตกอยู่ที่มวลชนทุกคน และยิ่งเวลานี้ประเทศมหา อำนาจที่เหมือนเสือของระบบทุนนิยมเห็นเรายิ่งอ่อนแอเขาก็จ้องตะครุบ ทรัพยากรของเราไปหมด จึงอยากฝากถึงสหายทุกคนให้ร่วมมือร่วมใจพัฒนา ประเทศให้เจริญก้าวหน้า อย่ามัวทะเลาะและคอร์รัปชั่นกันอยู่เลย" สหายมีนากล่าวทิ้งท้ายด้วยแววตาที่มุ่งมั่น

หลังอิ่มจากอาหารกลางวันเจ้าสี่ล้อก็พาเราลงจากภูหินร่องกล้าไปตามเส้นทาง ภูทับเบิกสองข้างทางมีทิวทัศน์งดงามตัดกับไร่กะหล่ำปลีของชาวบ้านดูแล้วก็ ได้อารมณ์เพลินตาไปอีกแบบ โดยเฉพาะเมื่อถึงส่วนยอดภูมองลงมายังพื้นล่างเห็นถนนคดเคี้ยวเป็นงูเลื้อย เบื้อง หลังเป็นทิวเขาตัดกับกลุ่มก้อนเมฆทะมึน ผมปีนไปบนก้อนหินขนาดใหญ่สุดบนยอดภูเพื่อถ่ายรูปในระยะสายตาเจ้าเวหา... อืม!! "รู้สึกดีเป็นบ้า!!"

การเดินทางไต่ระดับความสูงมา ภูหินร่องกล้า ครั้งนี้อาจไม่ยิ่งใหญ่ในสายตาคนอื่น แต่สำหรับเราได้รับรู้และเข้าใจว่า คนทุกคนถึงกาลเวลาผ่านเลยเพียงไรแต่ "ฐานที่มั่นในหัวใจ" ยังสำคัญเสมอตราบใดที่การกระทำไม่ทรยศต่อหัวใจ




การเดินทาง :จากพิษณุโลกใช้เส้นทางหมายเลข 12 (พิษณุโลก-หล่มสัก) เลี้ยวซ้ายที่บ้านแยง กม. 68 เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 2013 ไปอีก 28 กิโลเมตร ถึงอำเภอนครไทย แล้วเลี้ยวขวาตามทางหลวงหมายเลข 2331 ไปภูหินร่องกล้าอีก 31 กิโลเมตร นอกจากนี้ภูหินร่องกล้ายังสามารถเข้าถึงได้จากด้านจังหวัดเพชรบูรณ์โดยใช้ เส้นทางหล่มเก่า-ทับเบิก-ภูหินร่องกล้า แต่เส้นทางนี้ค่อนข้างสูงชัน และคดเคี้ยวมาก เหมาะเป็นทางลงมากกว่า

รถโดยสาร :เดินทางโดยรถไฟหรือรถโดยสารจากกรุงเทพฯ ไปพิษณุโลก แล้วต่อรถโดยสารสายพิษณุโลก-นครไทย รถจะออกจากสถานีขนส่งพิษณุโลกทุก 1 ชั่วโมง ระหว่างเวลา 06.00-18.00 น. ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง จากนั้นต้องเช่าเหมารถสองแถวเล็กจากตลาดสดนครไทย ไปภูหินร่องกล้า ช่วงฤดูท่องเที่ยวมีบริการรถสองแถวโดยสารสายนครไทย-ร่องกล้า

ภูหินร่องกล้า

สีสันรายทาง

ของฝาก : ไก่ย่างวิเชียรบุรี แกล้มกับส้มตำทอดกรอบก็อร่อยไปอีกแบบ ตบท้าย ด้วยมะขามหวานของขึ้นชื่อเมืองเพชรบูรณ์

แหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง :น้ำตกร่มเกล้า-ภราดร ห่างจากโรงเรียนการเมืองประมาณ 600 เมตร มีทางแยกเดินลงน้ำตกร่มเกล้าก่อน จากนั้นเดินลงไปประมาณ 200 เมตร จะเป็นน้ำตกภราดร ที่เกิดจากลำธารเดียวกัน

น้ำตกศรีพัชรินทร์ ได้รับการตั้งชื่อเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับทหารจากค่ายศรีพัชรินทร์ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นทหารหน่วยแรกที่ขึ้นมาบนภูหินร่องกล้า น้ำตกศรีพัชรินทร์มีความสูงประมาณ 20 เมตร มีแอ่งใหญ่ที่เหมาะสำหรับเล่นน้ำ

น้ำตกหมันแดง เป็นน้ำตกที่มีชั้นต่าง ๆ รวม 32 ชั้น เกิดจากห้วยน้ำหมัน ซึ่งมีน้ำตลอดปี อยู่บนเส้นทางสายภูหินร่องกล้า-หล่มเก่า กม. 18 มีทางเดินเท้าเข้าสู่น้ำตกอีก 3.5 กิโลเมตร



ที่มา
http://travel.kapook.com/view5764.html